ขณะนี้
แม้หลวงปู่จะละสังขารไปเป็นเวลานานถึง ๕๐ กว่าปีแล้วก็ตาม
แต่ท่านก็เป็นที่พึ่งแก่มหาชนได้ตลอดมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีความเคารพรักท่าน
ดังตัวอย่างเรื่องราวที่จะกล่าวถึง ต่อไปนี้
แต่ท่านก็เป็นที่พึ่งแก่มหาชนได้ตลอดมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีความเคารพรักท่าน
ดังตัวอย่างเรื่องราวที่จะกล่าวถึง ต่อไปนี้
เมื่อหลวงปู่นั่งอยู่ในรถ
เรื่องของ : คุณญตินันท์ เที่ยงนิมิตร
เรื่องของ : คุณญตินันท์ เที่ยงนิมิตร
“เดี๋ยวมา
รออยู่ที่นี่นะ” เป็นคำพูดที่คุณญตินันท์ได้ยินจากเพื่อนใหม่
ตอนนั้นเธอไม่นึกเลยว่าเขาไปแล้วจะไปลับ พร้อมทั้งฉกของรักของเธอไปด้วย
ตอนนั้นเธอไม่นึกเลยว่าเขาไปแล้วจะไปลับ พร้อมทั้งฉกของรักของเธอไปด้วย
เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ คุณญตินันท์
เที่ยงนิมิตร
หรือไอซ์ เดินทางไปร่วมงานหล่อหลวงปู่ทองคำกับคุณแม่และคุณป้าซึ่งไปวัดพระธรรมกายอยู่เป็นประจำคืนก่อนวันงาน คุณแม่บอกกับเธอว่า
“พรุ่งนี้แม่จะไปวัดนะ จะไปเอาบุญใหญ่งานหล่อหลวงปู่ แม่คงไป
หรือไอซ์ เดินทางไปร่วมงานหล่อหลวงปู่ทองคำกับคุณแม่และคุณป้าซึ่งไปวัดพระธรรมกายอยู่เป็นประจำคืนก่อนวันงาน คุณแม่บอกกับเธอว่า
“พรุ่งนี้แม่จะไปวัดนะ จะไปเอาบุญใหญ่งานหล่อหลวงปู่ แม่คงไป
ต่างจังหวัดกับหนูไม่ได้” เมื่อเธอได้ยินอย่างนั้นก็เลยตอบคุณแม่ไปว่า
“ถ้าอย่างนั้นไอซ์ไม่ไปทำงานแล้ว ไปเอาบุญกับแม่ดีกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นไอซ์ไม่ไปทำงานแล้ว ไปเอาบุญกับแม่ดีกว่า”
ด้วยความที่ห่างหายจากวัดไปนาน เมื่อได้เห็นสาธุชน
ในชุดขาวสะอาดตาเป็นแสน ๆ คน บนสภาธรรมกายสากล เธอถึงกับเอ่ยออกมาว่า “โอ้โฮ! หลวงปู่ท่านคงศักดิ์สิทธิ์มากเลย คนถึงได้มากันเยอะแยะขนาดนี้”
ในชุดขาวสะอาดตาเป็นแสน ๆ คน บนสภาธรรมกายสากล เธอถึงกับเอ่ยออกมาว่า “โอ้โฮ! หลวงปู่ท่านคงศักดิ์สิทธิ์มากเลย คนถึงได้มากันเยอะแยะขนาดนี้”
พอได้เวลาหล่อหลวงปู่ เธอก็หย่อนมหาสุวรรณนิธิลงในรางทั้งน้ำตา
เธอเล่าว่า
“บอกไม่ถูก
ไม่รู้ทำไมน้ำตาไหลไม่หยุด ขนลุกไปทั้งตัว รู้แต่ว่าปลื้ม ชื่นใจ
ประทับใจไปหมด”
ประทับใจไปหมด”
หลังกลับจากงานหล่อหลวงปู่ เวลาประมาณตี
๓ คุณญตินันท์ต้องออกไปทำงานที่ต่างจังหวัดเช่นเคย
ปกติ คุณแม่ไปด้วย
แต่ครั้งนี้เธอมีเพื่อนใหม่ร่วมเดินทางแทนคุณแม่
ในขณะที่เธอแวะเข้าห้องน้ำ เพื่อนบอกว่า “เดี๋ยวมา รออยู่ที่นี่นะ”
เธอรออยู่ตั้งนาน เพื่อนก็ไม่กลับมา พอเปิดกระเป๋าดูจึงรู้ว่ากุญแจรถไม่อยู่แล้ว
คือเพื่อนใหม่เปลี่ยนสถานะเป็นโจรขับรถของเธอไปไหนแล้วก็ไม่รู้
ทิ้งให้เธอนั่งร้องไห้อยู่เป็นนานสองนาน พอกลับถึงบ้าน เมื่อเล่าเรื่องให้ทุกคนฟัง
ในขณะที่เธอแวะเข้าห้องน้ำ เพื่อนบอกว่า “เดี๋ยวมา รออยู่ที่นี่นะ”
เธอรออยู่ตั้งนาน เพื่อนก็ไม่กลับมา พอเปิดกระเป๋าดูจึงรู้ว่ากุญแจรถไม่อยู่แล้ว
คือเพื่อนใหม่เปลี่ยนสถานะเป็นโจรขับรถของเธอไปไหนแล้วก็ไม่รู้
ทิ้งให้เธอนั่งร้องไห้อยู่เป็นนานสองนาน พอกลับถึงบ้าน เมื่อเล่าเรื่องให้ทุกคนฟัง
คุณแม่ของเธอก็พูดจาเป็นมงคลสุด ๆ ว่า
“มันจะเอารถไปได้ยังไงหลวงปู่ท่านนั่งอยู่ในรถ”
ฟังแล้วกำลังใจมาเป็นกอง แล้วคุณแม่ก็บอกให้เธอนึกถึงหลวงปู่
นั่งสมาธิแล้วอธิษฐานจิต กับหลวงปู่
และยังบอกอีกว่า “แม่มั่นใจว่ายังไงก็ต้องได้คืน”
จากนั้น ทุกคนก็ช่วยกันอธิษฐานจิต คุณป้า อธิษฐานว่า
“ขออานุภาพของหลวงปู่ช่วยให้หลานสาวได้รถคืนภายใน ๒๔ ชั่วโมงด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
“ขออานุภาพของหลวงปู่ช่วยให้หลานสาวได้รถคืนภายใน ๒๔ ชั่วโมงด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
ต่อมา คุณญตินันท์และคุณพ่อคุณแม่ก็เตรียมตัวออกตามหารถ
แต่ตัวแทนบริษัทประกันบอกว่า “ไม่ต้องไปหาแล้ว ไม่ได้คืนหรอก”
ที่เขาพูดอย่างนี้เพราะที่ผ่าน ๆ มาสถิติรถหายกับสถิติได้รถคืนไม่สมดุลกันเลย
บางครั้งจับขโมยได้ แต่ไม่มีรถมาคืนให้ เพราะว่าเอาไปขายที่ชายแดนเรียบร้อยแล้ว
แต่คุณญตินันท์กับคุณแม่เชื่อมั่นในอานุภาพของหลวงปู่ จึงยืนยันว่าจะตามหารถต่อไป
แต่ตัวแทนบริษัทประกันบอกว่า “ไม่ต้องไปหาแล้ว ไม่ได้คืนหรอก”
ที่เขาพูดอย่างนี้เพราะที่ผ่าน ๆ มาสถิติรถหายกับสถิติได้รถคืนไม่สมดุลกันเลย
บางครั้งจับขโมยได้ แต่ไม่มีรถมาคืนให้ เพราะว่าเอาไปขายที่ชายแดนเรียบร้อยแล้ว
แต่คุณญตินันท์กับคุณแม่เชื่อมั่นในอานุภาพของหลวงปู่ จึงยืนยันว่าจะตามหารถต่อไป
เชื่อไหมว่า ภายในเวลาไม่ถึง ๒๔ ชั่วโมง
ตรงตามที่คุณป้าอธิษฐานไว้
พวกเขาพบรถจอดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที
และในทสี่สุดก็ได้รถคืนในเช้าวันรุ่งขึ้น !!
พวกเขาพบรถจอดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที
และในทสี่สุดก็ได้รถคืนในเช้าวันรุ่งขึ้น !!
คิดดูก็น่าแปลก
วิสัยโจรเวลาขโมยของไปแล้วจะต้องเอาไปซ่อนไว้
ไม่ให้ใครเห็น แต่นี่กลับเอารถมาจอดไว้ให้คนเห็นง่าย ๆ ไม่เอาอะไรคลุมด้วย
แถมยังมีสิ่งดลใจให้คุณญตินันท์ไปหารถในบริเวณนั้นอีกด้วย คุณญตินันท์บอกว่า
“ทันทีที่ได้รถคืน ก็วิ่งเข้าไป กอดรถ น้ำตาไหล แล้วเข้าไปดูของในรถ อัศจรรย์มากของทุกอย่างที่อยู่ตรงรูปหลวงปู่อยู่ครบหมด ไม่มีการเคลื่อนย้ายเลย เหมือนกับขโมยมองไม่เห็น มีทั้งกระเป๋าสตางค์บัตร ATM และเอกสารสำคัญ บอกตรง ๆ เลยว่ายิ่งกว่าถูกรางวัลที่ ๑ อีก นี่ถ้าไม่ได้ไปงานหล่อหลวงปู่ ไม่รู้จะเป็นยังไง”
ไม่ให้ใครเห็น แต่นี่กลับเอารถมาจอดไว้ให้คนเห็นง่าย ๆ ไม่เอาอะไรคลุมด้วย
แถมยังมีสิ่งดลใจให้คุณญตินันท์ไปหารถในบริเวณนั้นอีกด้วย คุณญตินันท์บอกว่า
“ทันทีที่ได้รถคืน ก็วิ่งเข้าไป กอดรถ น้ำตาไหล แล้วเข้าไปดูของในรถ อัศจรรย์มากของทุกอย่างที่อยู่ตรงรูปหลวงปู่อยู่ครบหมด ไม่มีการเคลื่อนย้ายเลย เหมือนกับขโมยมองไม่เห็น มีทั้งกระเป๋าสตางค์บัตร ATM และเอกสารสำคัญ บอกตรง ๆ เลยว่ายิ่งกว่าถูกรางวัลที่ ๑ อีก นี่ถ้าไม่ได้ไปงานหล่อหลวงปู่ ไม่รู้จะเป็นยังไง”
การที่คุณญตินันท์รถหายแล้วได้คืน
นับว่ามีบุญมากเพราะตามปกติรถหายยากที่จะได้คืน ขนาดของเล็ก ๆแบบโทรศัพท์หายยังไม่ค่อยได้คืนเลย
แต่กรณีนี้
คุณป้ากับคุณแม่อยู่ในบุญมาตลอด และมีความเคารพรักเชื่อมั่น
ในหลวงปู่อย่างสูงตลอดมา แถมคุณญตินันท์ เจ้าของรถก็เพิ่งไปเติมบุญมาจากวัดด้วยการหล่อหลวงปู่ ซึ่งเป็นบุญใหญ่มาก ๆ และยังหล่อด้วยความปลื้มปีติจนน้ำตาไหลการทำบุญด้วยความปลื้มปีติย่อมจะได้บุญมากเป็นพิเศษมากกว่าไม่ปลื้มหลายเท่า
ยิ่งปลื้มในการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ
ยิ่งได้บุญมหาศาล ส่งผลให้ได้สมบัติที่หายกลับคืนมาเป็นอัศจรรย์
Cr. หนังสือ ยิ่งรู้จัก ยิ่งเคารพรักท่าน
http://www.kalyanamitra.org/book/index_dhammabook.php
คุณป้ากับคุณแม่อยู่ในบุญมาตลอด และมีความเคารพรักเชื่อมั่น
ในหลวงปู่อย่างสูงตลอดมา แถมคุณญตินันท์ เจ้าของรถก็เพิ่งไปเติมบุญมาจากวัดด้วยการหล่อหลวงปู่ ซึ่งเป็นบุญใหญ่มาก ๆ และยังหล่อด้วยความปลื้มปีติจนน้ำตาไหลการทำบุญด้วยความปลื้มปีติย่อมจะได้บุญมากเป็นพิเศษมากกว่าไม่ปลื้มหลายเท่า
ยิ่งปลื้มในการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ
ยิ่งได้บุญมหาศาล ส่งผลให้ได้สมบัติที่หายกลับคืนมาเป็นอัศจรรย์
Cr. หนังสือ ยิ่งรู้จัก ยิ่งเคารพรักท่าน
http://www.kalyanamitra.org/book/index_dhammabook.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น